มติมหาเถรสมาคมในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๙/๒๕๖๘  ใจความสำคัญ คือ การเห็นชอบเรื่อง ขอให้วัดทุกวัดแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด และนำระบบบัญชีวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปใช้ในการดำเนินงาน มหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการสนองพระนโยบายของเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม เรื่องการจัดการทรัพย์สินของวัด โดยในที่ประชุมมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ ๑๙/๒๕๖๘ วันพุธ ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร
 
          โดยมี สมเด็จพระธีรญาณมุนี ปฏิบัติหน้าที่ประธานในการประชุมคราวนี้ พร้อมด้วยกรรมการที่มาประชุมทุกรูป ร่วมกันพิจารณาแนวทางให้วัดทุกวัดมีคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพย์สิน และให้ทุกวัดจัดทำบัญชีตามแนวทางที่มหาเถรสมาคมมีมติไปแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ โดยที่ประชุมครั้งนี้มีมติเห็นชอบ ความสรุปดังนี้
                  ๑. เพื่อให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล มีการควบคุมสอดส่องแนะนำและดูแลจากผู้ทรงคุณวุฒิและชุมชน และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้วัดทุกวัดแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด ทำหน้าที่กลั่นกรอง ถวายข้อเสนอแนะเจ้าอาวาสในการวางแผน กำกับ ดูแล และจัดการศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี
 
 
โดยมีองค์ประกอบต่อไปนี้
      (๑) เจ้าอาวาส เป็นประธานกรรมการ
      (๒) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินหรือบัญชี อย่างน้อยจำนวน ๑ คน เป็นกรรมการ
      (๓) ตัวแทนภาคประชาชนในชุมชน ไม่น้อยกว่า ๒ คน เป็นกรรมการ ทั้งนี้ อาจเป็นผู้นำชุมชน ผู้มีบทบาทในการพัฒนาชุมชน หรือมีตำแหน่งหน้าที่ราชการในชุมชน เป็นที่ยอมรับในสังคม และเป็นผู้มีจริยธรรมดีงาม ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษหรือเคยต้องโทษคดีอาญา
       (๔) ไวยาวัจกร เป็นกรรมการและเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายคฤหัสถ์ในการจัดการทรัพย์สินวัดตามคำสั่งเจ้าอาวาส
มีวาระดำรงตำแหน่ง คราวละ ๒ ปี เมื่อหมดวาระอาจตั้งใหม่ในชุดเดิมก็ได้ ถ้ากรรมการคนใดมีข้อบกพร่อง ไม่เหมาะสม หรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เจ้าอาวาสอาจให้พ้นตำแหน่งก่อนครบวาระก็ได้
               ๒.ให้วัดทุกวัดนำระบบบัญชีวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งได้จัดทำและเผยแพร่เป็นแนวทางปฏิบัติไว้ ตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๔๙๕/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ มาใช้ในการดำเนินการทางบัญชีของวัดโดยเคร่งครัด
 
ขอบคุณข่าวจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ